
บพค. ร่วมกับ สอวช. สทน. มอ. เปิดเวทีระดมความเห็นจัดทำแผนที่นำทาง (Roadmap) การวิจัยด้านเทคโนโลยีฟิวชันของประเทศไทย ผ่านแพลตฟอร์ม Frontline Think Tank ของธัชวิทย์
เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการ บพค. มอบหมายให้ ดร.จิตติ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการ บพค. เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อเรื่อง “การส่งเสริมและการขับเคลื่อนการวิจัยขั้นแนวหน้า (Frontier Research) และธัชวิทย์ – วิทยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (Thailand Academy of Sciences: TAS)” พร้อมด้วยนักวิเคราะห์อาวุโส บพค. ภายในการประชุมหารือการจัดทำแผนที่นำทางด้านเทคโนโลยีฟิวชันในประเทศไทย โดยมี รองศาสตราจารย์ วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวเปิดการประชุมฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและนักวิจัยจากหน่วยงานในภาคีเครือข่ายสำคัญด้านเทคโนโลยีพลาสมาและฟิวชันของประเทศไทย ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) ศาสตราจารย์ ดร.นักสิทธ์ คูวัฒนาชัย ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ สอวช. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ชัชนาถ เทพธรานนท์ ที่ปรึกษา บพค. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บุญญฤทธิ์ ฉัตรทอง หัวหน้าโครงการจัดทำแผนที่นำทางฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าร่วมกว่า 30 คน ณ ห้องประชุมหว้ากอ 2 อาคารจามจุรีสแควร์ ชั้น 14 กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ ดร.จิตติฯ ได้กล่าวบรรยายถึงบทบาทภารกิจของ บพค. ที่ได้รับมอบหมายให้บริหารและจัดการทุนตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของประเทศผ่านดัชนีนวัตกรรมของประเทศ (GII) ดัชนีการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน (SDG Index) สร้างคนและงานวิจัยขั้นแนวหน้ารองรับทั้งอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve ตอบโจทย์ตามแผน ววน. พ.ศ. 2566-2570 โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุทธศาสตร์ ววน. ที่ 3 และ 4 ที่มุ่งส่งเสริมการสร้างเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าที่ก้าวหน้าล้ำยุค รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก และการสร้างกำลังคนสมรรถนะสูงตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมและประเทศ โดยในวันนี้เป็นการขับเคลื่อนในเชิงนโยบายการขับเคลื่อนเทคโนโลยีใหม่ของประเทศไทย จึงมีกลไกธัชวิทย์มิติที่ 1 Frontline Think Tank เข้ามาบริหารจัดการ โดยมี สอวช. เป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในการศึกษาสถานภาพเทคโนโลยีในปัจจุบันที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ของคนไทย หรือแม้แต่การพัฒนาเทคโนโลยีที่รองรับงานวิจัยขั้นแนวหน้าที่โลกต้องเผชิญใน 5 ประเด็น ได้แก่ 1) อาหารแห่งอนาคต (Future Food) 2) ชีววิทยาสังเคราะห์ (Synthetic Biology) 3) เทคโนโลยีฟิวชัน (Fusion Technology) 4) ความฉลาดรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI Literacy) และ 5) การจัดการคาร์บอนสำหรับองค์กร (Carbon Management) ทั้งนี้ การกำหนดทิศทางประเด็นการวิจัยของประเทศมิได้จำกัดอยู่เพียง 5 สาขานี้ ซึ่ง บพค. พร้อมเปิดรับฟังปัญหา ความท้าทายและประเด็นวิจัยที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่เสมอ เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐาน ความพร้อมด้านกำลังคน ตลอดจนเครือข่ายความร่วมมือนานาชาติให้เท่าทันต่อสถานการณ์ใหม่ๆ
สำหรับเทคโนโลยีฟิวชันในประเทศไทยนั้น ถือเป็นเรื่องท้าทายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างมาก เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบควบคุมเทคโนโลยีนิวเคลียร์และพลาสมา งบประมาณและทรัพยากรยังมีอยู่อย่างจำกัด ตลอดจนการสร้างเข้าใจแก่ภาคประชาชนให้รับทราบถึงข้อดีของการมีพลังงานสะอาดจากเทคโนโลยีนิวเคลียร์ อันจะเป็นการพลิกโฉมการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นพลังงานนิวเคลียร์ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการจัดทำแผนที่นำทาง (Roadmap) ของประเทศในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการวางยุทธศาสตร์ด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี กำลังคน และโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพสูงในระยะยาว 30 – 50 ปี เพื่อปรับเปลี่ยนสถานะพลังงานของประเทศไทยให้มีต้นทุนถูกลงและปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมน้อย ซึ่งจะสอดคล้องกับความพยายามในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. … ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในรัฐสภา อันจะเป็นกลไกสำคัญเฉพาะด้านที่จะสร้างแนวนโยบายรับมือสภาวะอากาศแปรปรวนรุนแรงได้ และสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
..



Post Views: 37