วิทยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย
การพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายใต้แพลตฟอร์มวิทยสถานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย
สื่อ
ขับเคลื่อน 3 มิติ เพื่อเป็นฐานในการพัฒนาประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
Future Graduates Platform “กำลังคนสมรรถนะสูงแห่งอนาคต”
ความเป็นมา
สืบเนื่องจากดำริของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ณ งานประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อน “ธัชวิทย์” สู่การเพิ่มศักยภาพ ของประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมเดอะสุโกศล ถนนศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร ที่เล็งเห็นว่า การพัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยควรเป็นอย่างก้าวกระโดด และรวดเร็ว เพื่อสร้างประเทศให้มีฐานวิทยาศาสตร์และกำลังคนสมรรถนะสูง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก โดยอาศัยแรงขับเคลื่อนจากโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านทุนทางด้านเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐาน ทุนทางสังคมและทรัพยากรมนุษย์ ทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เจริญเติบโตได้อย่าง มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน จึงได้มีแนวคิดการขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้วย วิทยสถาน วิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (Thailand Academy of Sciences : TAS) หรือ เรียกว่า “ธัชวิทย์” และได้มอบหมายให้ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการ พัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) เร่งดำเนินการ “ธัชวิทย์” ให้เป็นรูปธรรมอย่าง รวดเร็ว นั้น บพค. น้อมรับนโยบายโดย “ธัชวิทย์ จะเปลี่ยนประเทศด้วย วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อให้ไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วให้ได้ โดยจะยกระดับการศึกษา เทคโนโลยี วิทยาการของประเทศแบบก้าวกระโดด”
“บพค. พร้อมที่จะเป็นหน่วยงานในการผลักดันให้ธัชวิทย์เป็น 1 ในสถาบันคลัง ความรู้ระดับแนวหน้าของประเทศ เป็นหน่วยงานกลางที่จะประสานงานกับทุก หน่วยงาน เพื่อนำพาให้การนำวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปใช้ให้เกิด ประโยชน์แก่ประชาชนให้มากที่สุด และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้า ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกต่อไป”
“ธัชวิทย์”
เชื่อมโยงเครือข่ายนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ระหว่างสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย ภาคเอกชนและอุตสาหกรรม เพื่อสร้างคลังสมองของประเทศ ยกระดับวิจัย และนวัตกรรม ผลิตบัณฑิตสมรรถนะสูงในสาขาที่จำเป็น
มิติที่ 1
Frontline Think Tank คลังคิดนักวิทย์
- รวบรวมแนวทางการแก้ไขปัญหาและเตรียมการสำหรับอนาคต
- นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาแก่รัฐบาล
- ให้ข้อมูลหรือให้ระบบในการแก้ไขหลากหลายปัญหาหรือ แก้ปัญหาเฉพาะด้านเพื่อปรับปรุงให้ดีกว่าวิธิเดิม
- นำนโยบายมาลงมือปฏิบัติการจริง
มิติที่ 2
Frontier Science Alliances : งานวิจัยชั้นแนวหน้า
- Food for the future
- Climate change and beyond
- Development of human for the future
- Al / Digital
- Earth science / Earth space
- Plasma technology
- Quantum
มิติที่ 3
Future Graduates Platform : บัณฑิตนักวิทย์สมรรถนะสูง
- ร่วมกันนำโครงสร้างพื้นฐาน นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย วิศวกร และเครือข่ายที่แต่ละฝ่ายมีอยู่มาสนับสนุนการสร้างและพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง มีทักษะเชิงลึกในเทคนิคเฉพาะทาง
- สร้างความร่วมมือด้านการวิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และบวัตกรรมขั้นแนวหน้าที่เป็นที่ต้องการของประเทศในปัจจุบันและอนาคต
- นำองค์ความรู้ที่แต่ละฝ่ายมีอยู่มาร่วมกันการสร้างความเข้มแข็ง สร้างคลังสมองในการตอบโจทย์แก้ปัญหาที่สำคัญของประเทศ และชี้แนะแนวโน้มทิศทางของโลกในอนาคต
- ผลิตและพัฒนากักษะบุคลากรสมรรถนะสูงให้สอดคล้องกับความต้องการและยกระดับความสามามารถของสถาบันวิจัย ภาคอุตสาหกรรม และความต้องการของประเทศ ในสาขาเฉพาะด้าน
ปัจจุบันกำลังสร้างและพัฒนาหลักสูตรมากกว่า 10 หลักสูตรในสาขาที่รองรับการเติบโตและโอกาสทางอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ของประเทศไทย์ เช่น Quantum technology, Plasma and fusion technology, High energy physics innovation, Science communication, Future food and bio-nanotechnology แล: Climate change technology loยอาศัยlคsงสร้างพ้นฐานที่กับสมยและบคลากรที่มีความรู้กักษะเฉพาะกาะทาง เพื่อผลิตกำลังคนที่เป็น Brain power ของประเทศให้สามารถปรับตัว และเอ่าตัวรอดต่อการเปลี่ยนแปลงและวิกฤตใหม่ ได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน
นักศึกษาสามารถทำวิจัยโดยมี National facility ระดับโลก “บัณฑิตรัชวิทย์”
สำเร็จการศึกษาโดยมีทั้ง Degree certificate และ Skill (non-degree) certificate และต้องได้รับเข้าทำงานในสถาบันวิจัยหรืออตสาหกรรม ทั้งนี้ Future Graduate Platform พร้อมเปิดรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2567
ดาวน์โหลด
คู่มือผู้ช่วยวิจัย TAS-67 เร็ว ๆ นี้